pagunมีคำถามมากมายของผู้คนในแต่ละสายอาชีพ คำถามที่พบเจอบ่อยๆคงหนี้ไม่พ้นคำว่า ทำประกันกันไปทำไม ทำแล้วได้อะไร

หากอยากรู้ว่าทำไมเราต้องทำประกันก็จำเป็นที่จะต้องรู้จักกับประกัน กันเสียก่อนเพราะถ้าหากไม่รู้จักประกัน มันก็ไม่มีความหมาย ว่าเราทำประกัน กันไปทำไม ทำแล้วได้อะไรกลับมา

ประกันภัยคือ การหริหารความเสี่ยงโดยเอาความเสี่ยงของผู้ทำประกันนั้น กลับไปสู้บริษัทที่รับเอาความเสี่ยงนั้นไปแทน โดยที่เรามีการตกลงการทำสัญญาและมีความยินยอมพร้อมที่จะเสียค่าใช่จ่ายในการทำประกันและรับรู้เรื่องของสิทธิที่จะได้รับและผลประโยชน์ทดแทน โดนที่บริษัทนั้นๆต้องรับเอาค่าเสี่ยงภัยนั้นๆไปด้วย เราเรียกสิ่งนั้นว่า ค่าสินไหมทดแทน โดยเงินเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการตกลง ระหว่าผู้ทำประกันและบริษัทประกัน และที่จริงยังมีอีกหลากหลายประกันที่ทางบริษัทเราได้ทำเงื่อนไข สิทธิและผลประโยชน์อีกมากมาย ยกตัวอย่าง เช่น ประกันกันภัย,ประกันชีวิต,ประกันอุบัติเหตุ,ประกันรถยนต์ ซึ่งยังมีค่าใช้จ่ายและสิทธิที่จะได้รับที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อตกลงกันทั้งสองฝ่ายเราจะยกตัวอย่าง ประกันรถยนต์ชั้นที่ 1 และชั้นที่ 3 เพื่อให้เข้าใจกับประกันได้มากขึ้น เช่น ประกันชั้นที่ 1 อาจจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าประกันชั้นที่ 3 แต่ก็มีการครอบคลุมที่มากกว่า และดีกว่าอย่างแน่นอน เช่น การเกิดอุบัติเหตุของรถที่ทำประชั้น 1 สามารถเคลมได้เสมอไม่ว่าจะเป็นกรณีเล็กน้อยก็ตาม โดยที่ไม่ต้องมีคู่กรณีอีกด้วย รวมไปถึงการเข้าเคลมที่มีความแตกต่างกันในเรื่องของ อู่ซ้อมที่ดีกว่าและใช้ระยะเวลาในการซ่อมที่น้อยกว่า โดยที่ประกันภัยรถยนต์ของชั้น 3 นั้นจะมีความแตกต่างในเรื่องของราคาในการทำประกันที่น้อยกว่าหรือประหยัดกว่าชั้นที่ 1 นั้นเอง แต่ก็มีความคุ้มครองที่สูงพอสมควรและพอสมเหตุสมผลอีกด้วย

ยกตัวอย่างประกันชั้นที่ 3 เช่น หากเกิดอุบัติเหตุ ที่สามารถเคลมได้ต้องเป็นกรณีที่มีคู่กรณีเท่านั้น อย่างไรก็ตามประกันแต่ละประกันนั้นก็มีข้อดีที่แต่ต่างกันออกไปเราควรเลือกทำที่เหมาะสมกับตัวเราหรือรถของเราจะดีกว่าครับเพราะรายจ่ายการทำประกันจะได้ไม่เป็นภาระของตัวเราที่มากจนเกินไป

มีคำถามมากมายของผู้คนในแต่ละสายอาชีพ คำถามที่พบเจอบ่อยๆคงหนี้ไม่พ้นคำว่า ทำประกันกันไปทำไม ทำแล้วได้อะไร

หากอยากรู้ว่าทำไมเราต้องทำประกันก็จำเป็นที่จะต้องรู้จักกับประกัน กันเสียก่อนเพราะถ้าหากไม่รู้จักประกัน มันก็ไม่มีความหมาย ว่าเราทำประกัน