แน่นอนครับว่าก่อนที่เราจะมาขายประกันเราก็อยากจะทราบอะไรหลายๆอย่าง โดยเฉพาะรายละเอียดที่พนักงานขายจะได้อะไรตอบแทนบ้าง จะดีไหมจะคุ้มไหมบอกได้ครับว่าของอย่างนี้ไม่ลองไม่รู้หรอกครับ การขายประกันนั้นบางคนก็ประสบความสำเร็จไม่น้อยแต่ก็มีบางคนที่ทำไม่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน เชื่อได้เลยว่าคนที่มีความรู้ความสามารถและคนมีเวลา รวมไปถึงเป็นที่รู้จักของใครหลายๆคน โดยคนกลุ่มนี้มีความได้เปรียบอยู่แล้วส่วนคนไม่มีสิ่งที่ว่าข้างต้นก็อาจจะประสบความสำเร็จในการขายประกันได้เช่นกัน
และนอกเหนือความสำเร็จของการขายประกันนี้จะได้รับผลตอบแทนเป็นอย่างดี เรามาพูดถึงคนที่ขายประกันให้สำเร็จเขาจะมีวิธขายอย่างไรบ้าง
หนึ่งเริ่มจากคนรู้จักก่อน โดยเราจะเสนอผลประโยชน์และสิทธิที่ผู้ซื้อจะได้รับความคุ้มค่าของการทำประกัน โดยเราต้องโน้มนาวใจคนให้คนที่สนใจหรือที่ไม่มีความสนใจมาซื้อได้ให้ และการขายประกันที่จัดสร้างรายได้จนทำให้เราได้รับประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่ความสำเร็จจากการขายเพียงอย่างเดียวแต่เป็นการชักจูงให้คนมาเป็นหนึ่งในลูกทีมของเราได้ ดังนั้นจะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ผมจะยกตัวอย่างสิ่งที่ได้รับจากการขายประกันสักหนึ่งตัวอย่าง เช่นหากเราขายประกันได้หนึ่งรายในราคาสองพันบาท ตัวเราจะได้รับเงิน 20 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือนเช่นหากเรา ขายได้สองพันบาทเราจะได้รับผลตอบแทนสี่ร้อยบาท และถ้าหากเราขายได้ถึงสี่รายเราก็จะได้รับสี่พันบาทต่อเดือน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นได้รับที่มากพอสมควรเลยทีเดียวและถ้าเราสามารถโน้มนาวใจคนให้มาขายประกันกับเราได้ (ลูกทีม) เราก็จะได้สิบเปอร์เซ็นต์จากการขายประกันของลูกทีม และหากลูกทีมเราขายได้ถึงสิบรายเราจะได้รับรายได้มากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ และถ้าเรามีลูกทีมสิบคนในแต่ละคนขายได้สิบรายก็ลองคิดดูสิครับว่า รายได้ต่อเดือนในแต่ละเดือนจะมากมายแค่ไหน ดังนั้นพูดง่ายๆก็ไม่ต่างกับเราแชร์ลูกโซ่นั้นเองแต่ประกันมีความมั่นคงกว่าเช่น การมีค่าคอม ค่าเลื่อนตำแหน่งให้ โดยสามารถทำได้โดยเป็นงานประจำหรือเป็นงานเสริมก็ยังได้ นอกจากนี้เราจะได้รับมิตรภาพ ความสามัคคีและการทำงานเป็นทีม